ในการสอบ IETLS Writing Academic คุณจะต้องรู้จักการเขียนในเชิงวิชาการที่มีโครงสร้างการแบ่งย่อหน้าที่เป็นสากล รวมถึงควรรู้จักใช้คำศัพท์ที่เป็นทางการและไม่ Casual หรือเป็นกันเองมากเกินไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นในบทความนี้จะมาพูดถึง 7 คำศัพท์ที่คุณควรเลี่ยงหากคุณต้องการคะแนน IELTS Writing 7.0 ซึ่งมีดังต่อไปนี้
หรือถ้าจะสื่อความหมายถึงเด็กทารก แทนที่จะใช้คำว่า Babies ก็ให้ใช้คำว่า Infants แทน
สำหรับบทความนี้จะมาแชร์เรื่องของหลักการฝึกและเทคนิคแนวทางในการคว้าคะแนน IELTS Reading 8.5 ซึ่งก่อนอื่นคุณจะต้องรู้จักกับตัวรูปแบบและโครงสร้างของ IELTS Reading ก่อนว่าเป็นอย่างไร
ในการสอบ IELTS Reading คุณจะมีเวลาในการอ่านและตอบทั้งหมด 60 นาที ในข้อสอบนี้จะมี 40 ข้อ 40 คะแนน โดยในรูปแบบของการสอบ IELTS Academic จะเป็นเนื้อหาเชิงวิชาการ เช่น ข้อความใน Text Book หรือหนังสือเรียนที่มหาวิทยาลัย ส่วนในระดับของ IELTS General เนื้อหาก็จะเป็นการใช้ภาษาอังกฤษในหัวข้อทั่วไป ซึ่งการสอบในส่วน Reading นี้จะไม่มีเวลาให้คุณโอนคำตอบลงในกระดาษคำตอบเหมือนในส่วนของ Listening ดังนั้นในเวลา 60 นาที คุณจะต้องอ่านบทความ เลือกคำตอบที่ถูกต้อง และเขียนคำตอบลงในกระดาษคำตอบก่อนที่จะหมดเวลา
หลังจากที่พูดถึงโครงสร้างของข้อสอบ IELTS Reading กันไปแล้ว ก็มาถึงเรื่องของหลักการฝึกและเทคนิคแนวทางในการคว้าคะแนน IELTS Reading ระดับสูง ซึ่งจะมีเทคนิตต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
หากคุณต้องการคะแนน IETLS Writing ระดับ 6 7 8 ขึ้นไป คุณจะต้องมีพื้นฐาน Grammar ที่แข็งแรง มีความรู้คำศัพท์ที่หลากหลาย และที่สำคัญคือต้องรู้จักโครงสร้างของการเขียน Essay แต่นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีอีก 4 เทคนิคซึ่งเป็นสิ่งที่ข้อสอบ IELTS Writing ต้องการจากตัวคุณ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการเขียนของคุณได้อย่างรวดเร็วและช่วยดันให้คุณไปถึงคะแนนที่ต้องการ
หากคุณต้องการสอบ IELTS Speaking ให้ได้คะแนนระดับสูง นี่คือ 2 สิ่งที่คุณห้ามทำเด็ดขาดในการสอบ IELTS Speaking เพราะสิ่งเหล่านี้จะดึงคะแนนคุณลงมาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
อย่างแรกคือการเขียนทุกคำที่ตั้งใจจะพูดในการสอบพาร์ท 2 ซึ่งเวลาได้หัวข้อมาแล้ว คุณจะมีเวลาแค่ 1 นาทีเท่านั้นในการที่จะเรียบเรียงความคิด เรียบเรียงคำตอบก่อนที่พูดถึง 2 นาที ในเวลา 1 นาทีนี้ คุณจะไม่มีเวลาที่จะเขียนทุกคำที่จะพูดอย่างแน่นอน ดังนั้นแนะนำให้คุณดูคำถามว่าถามเกี่ยวกับเรื่องอะไรและเขียนคีย์เวิร์ดที่เป็นคำตอบของตัวเอง เพราะว่าคีย์เวิร์ดจะคอยเตือนสติและเป็นแนวทางหลักในการตอบของคุณ โดยคุณจะต้องสามารถที่จะอธิบายเป็นเรื่องเป็นราวและเป็นประโยคที่สมบูรณ์ได้จากการมองคีย์เวิร์ดนั้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นทักษะการพูดที่คุณควรจะต้องฝึกก่อนที่จะเข้าสอบในส่วนของ IELTS Speaking
อย่างที่สองก็คือการตอบกว้างเกินไป เช่น โจทย์บอกว่าให้พูดถึงรูปภาพที่ตัวเองประทับใจ คือโจทย์ต้องการให้เราพูดถึงรูปภาพนั้น ๆ...
สำหรับวิธีการเตรียมตัวเพื่อทำคะแนน IELTS 7.0 ภายใน 7 วัน ต้องบอกก่อนว่าคนที่จะสามารถทำได้นั้นจะต้องมีพื้นฐานทักษะทั้ง 4 ที่แน่นอยู่แล้วและมีการใช้ทักษะทั้ง 4 นี้อยู่เป็นประจำ เช่นนั้นแล้วสิ่งที่จะแนะนำในบทความนี้ก็จะช่วย Boost คะแนนและทำให้สามารถคว้าคะแนนระดับ 7.0 ตามที่ต้องการได้ภายในระยะเวลา 7 วัน โดยหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีพื้นฐานทั้ง 4 ทักษะนี้แน่นอยู่แล้วก็จะสามารถทำคะแนนดังกล่าวได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
สำหรับทักษะแรกซึ่งก็คือ Listening Skill หากคุณมีพื้นฐานทักษะการฟังที่ดีอยู่แล้ว คือสามารถฟังหนัง ฟังเพลง ฟังคนต่างชาติพูดได้เข้าใจมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือจำไว้ว่าแนวข้อสอบของ IELTS Speaking การถามของโจทย์และการเรียงของบทพูด ข้อสอบจะเรียงตามกันมา หมายความว่าน้อยครั้งที่จะมีการกระโดดข้ามไปข้ามมา ฉะนั้นเวลาที่บทพูดพูดถึงส่วนไหน คำถามหรือคำตอบของส่วนนั้นก็จะอยู่ที่เดียวกัน ดังนั้นเวลาที่ทำข้อสอบให้มองโจทย์และคอยฟังไว้ และให้ฟังไป ทำไป ฟังไป ตอบไป การทำแบบนี้จะสามารถจับคำที่นักเรียนต้องการ...
สิ่งแรกที่คุณไม่ควรที่จะละเลยไป หากต้องการที่จะพัฒนาทักษะการพูดก็คือเรื่องของการฟังนั่นเอง เพราะทักษะการฟังเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก ๆ ของทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ดังนั้นการฟังซีรีย์ภาษาอังกฤษบ่อย ๆ โดยเฉพาะที่มี Subtitle ภาษาอังกฤษจะสามารถช่วยคุณได้มาก ๆ โดยจะทำให้คุณสามารถจับได้ทั้งคำศัพท์ ทั้งการออกเสียง รูปแบบการพูด รวมถึงการใช้เสียงขึ้น-ลงของเจ้าของภาษา และคุณสามารถที่จะเอาตรงนี้มาพยายามออกเสียงเลียนแบบและพูดให้เหมือนเจ้าของภาษาให้มากที่สุด และเมื่อใดที่คุณสามารถออกเสียงเหมือนเค้าได้ คุณก็จะสามารถฟังเค้าออกและสามารถสื่อสารกับคนอื่น ๆ เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างเข้าใจ
วิธีที่ 2 คือการอัดคลิปตัวเองเวลาที่ตอบคำถามหรือพูดภาษาอังกฤษ วิธีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในพาร์ทที่ 2 ของการสอบ IELTS Speaking เพราะในพาร์ทที่ 2 นี้ คุณจะต้องพูดอยู่คนเดียวนานอย่างน้อย 2 นาที ดังนั้นจึงแนะนำให้อัดคลิปวีดีโอตอนพูดภาษาอังกฤษในหัวข้อต่าง ๆ ไว้ เสร็จแล้วให้มาย้อนดูและสังเกตตัวเองในจุดดังต่อไปนี้
- พูดถึง 2 นาทีหร...
สำหรับการสอบ IELTS Writing หากคุณมีความกังวัลในเรื่องของการบริหารเวลาในการทำ Task 1 กับ Task 2 ต้องบอกเลยว่าสิ่งที่จะสามารถช่วยคุณได้ดีที่สุดก็คือการวางแผนการเขียนก่อนที่จะเริ่มทำ เพราะหากอ่านโจทย์เสร็จแล้วคุณทำการเริ่มเขียนเลย จะทำให้การเขียนของคุณเวิ่นเว้อ มีน้ำเยอะมาก แต่แทบไม่มีเนื้อหาเลย อีกทั้งจะทำให้ไม่สามารถแบ่งย่อหน้าได้ตรงตามที่จุดประสงค์ของ IELTS ต้องการ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มเขียน ให้ทำการวางแผนก่อนว่าในส่วนของ Task 1 หรือ Task 2 ที่กำลังทำอยู่นั้นจะแบ่งเป็นกี่ย่อหน้า Introduction จะพูดเกี่ยวกับเรื่องใด แล้ว Body จะมีกี่ย่อหน้า แล้วแต่ละย่อหน้าจะพูดถึงเรื่องใด และสุดท้ายก็จบด้วย Conclusion โดยการที่วางแผนเป็นกิจจะลักษณะแบบนี้จะทำให้คุณเขียนได้ลื่นไหลขึ้น สมูทขึ้นและสามารถจับใจความได้ดี ซึ่งจะทำให้คนที่ตรวจ Essay ของคุณสามารถเข้าใจและให้คะแนนคุณได้ง่ายขึ้น นอกจากการวางแผนแล้ว ยังมีอีก 3 เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คนที่ตรวจงานเขียนของคุณให้คะแนนคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนี้
สิ่งสำคัญประการแรกคือผ...
ในโจทย์ของ IELTS Reading และ IELTS Listening บางครั้งจะมีการให้เติมคำและจะมีการระบุว่า Write NO MORE THAN TWO WORDS หรือ Write NO MORE THAN THREE WORDS คือห้ามเขียนเกิน 2 หรือ 3 คำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญประการแรกที่ผู้สอบจะต้องอ่านโจทย์ให้ชัดเจนว่าโจทย์ต้องการให้เขียนกี่คำ เพราะหากเขียนเกินก็อาจทำให้โดนหักคะแนนหรือไม่ได้คะแนนเลยสำหรับข้อนั้น ส่วนหากต้องการเขียนน้อยกว่าที่ระบุไว้หรือเขียนแค่คำเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่การเขียนคำเดียวจะทำให้คำตอบของเราค่อนข้างกว้างและการให้คะแนนก็จะยากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากให้แนะนำคือถ้าข้อสอบให้โควต้าเขียน 2 คำก็ควรที่จะเขียนให้ครบทั้ง 2 คำ เพราะว่าการที่เขียน 2 คำคือการที่ผู้สอบจะต้องหารายละเอียดมาเขียนทั้ง 2 คำให้ตรงกับสิ่งที่โจทย์ต้องการ ก็จะทำให้การคะแนนง่ายขึ้นและทำให้โอกาสผิดมีน้อยลง ดังนั้นเขียนตามโควต้าที่โจทย์ต้องการจะดีที่สุด เนื่องจากข้อสอบได้ทำการออกแบบมาแล้วว่าส่วนนี้ควรจะต้องใช้คำตอบกี่คำถึงจะเพียงพอและถูกต้องที่สุด
สำหรับเรื่องการบริ...
ก่อนที่เราจะรับ Feedback Speaking จากใคร เราควรจะมั่นใจก่อนว่าผู้ให้ Feedback หรือ Examiner คนนั้น ๆ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสอบ IELTS เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเสียความรู้สึกจนเกือบหมดกำลังใจในการไปสอบ เหมือนอย่างกรณีนักเรียนคนนี้
มีนักเรียนคนหนึ่งได้ไปทำ Mock Test Speaking และได้รับ Feedback จาก Examiner ที่ค่อนข้างแรงจนทำให้หมดกำลังใจในการสอบ IELTS และอยากที่จะล้มเลิกแผนการไปเรียนต่อต่างประเทศเลยทีเดียว นักเรียนคนนี้มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าในการทำ Mock Test ครั้งนั้น นักเรียนได้โจทย์เป็นหัวข้อ Celebration หรือการเฉลิมฉลอง ซึ่งนักเรียนคนนี้ก็ได้เล่าไปถึงการเรียนจบปริญญาตรี รวมถึงบรรยากาศงานรับปริญญาที่มีเพื่อนพี่น้องมาแสดงความยินดี แต่ Feedback ที่ได้รับจาก Examiner ในครั้งนั้นคือการบอกว่าคำตอบที่นักเรียนตอบเป็นคำตอบที่ผิด เพียงเพราะว่าคำว่า Celebration ในความคิดของ Examiner ควรจะต้องมีไวน์ มีเค้กและมีปาร์ตี้ แต่ในเมื่อนักเรียนไม่ได้ตอบตามนั้นเลย ดังนั้นคำตอบจึงไม่ถูกต้องและได้บอกนักเรียนว่า...
ทักษะการฟังเป็นทักษะที่หลาย ๆ คนเป็นกังวล แต่อันที่จริงแล้วทักษะการฟังเป็นทักษะที่สามารถฝึกและพัฒนาได้ง่ายที่สุดและรวดเร็วที่สุดจากทั้ง 4 ทักษะ เพียงแค่คุณเอาตัวเองมาฝึกฟังแบบจริงๆ เพราะไม่ว่าจะมีเทคนิคเทพขนาดไหน แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจหรือจับใจความไม่ได้ว่าผู้พูดต้องการสื่อความหมายอะไร ไม่ว่าอย่างไรคุณก็ตอบผิดอยู่ดี ดังนั้นจำไว้ว่าไม่มีทางลัดในเรื่องของการฟัง ต้องอาศัยการฝึกฝนทุกวัน วันละนิด ซึ่งจะทำให้คุณเก่งขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ข้อสอบ IELTS Listening ต้องการคนที่มีทักษะการฟัง คนที่สามารถฟัง เข้าใจและจับใจความ สื่อความหมายได้จริง ๆ ซึ่งวิธีการฝึก 3 รูปแบบนี้จะช่วยให้คุณมีทักษะการฟังแบบที่ข้อสอบ IELTS ต้องการ โดยเป็นวิธีการฝึกที่สามารถเริ่มต้นฝึกได้ทันทีถึงแม้ว่าจะมีพื้นฐานน้อยก็ตาม
50% Complete
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua.