แกรมมาร์ที่ใช้การสอบ IELTS : Even though vs. Even if

May 17, 2022
ครูเมย์จะมาสอนเรื่อง Even though และ Even if ค่ะ เห็นหน้าตาคล้ายๆกัน แต่ความหมายแตกต่างกันไปคนละเรื่องเลย เริ่มเลยค่ะ
 
Even though : ใช้กล่าวถึงความจริงในด้านที่เราไม่อยากสักเท่าไร มีความคล้ายคลึงกับ despite
 
🔷Even though I hate driving, I'm still going to Bangkok.
แม้ว่าฉันเกลียดการขับรถ สุดท้ายก็ต้องขับไปกรุงเทพอยู่ดี
 
🔷Even though I hate tennis, I'm still going to watch the final.
แม้ว่าฉันจะไม่ชอบเทนนิสเลยก็เถอะ แต่ก็ดูจนถึงรอบตัดสินสุดท้าย
 
Even if : ใช้กล่าวถึงสมมติเหตุการณ์อย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นจริง
 
🔷Even if it's sunny when we're in Scotland, I'm not going swimming
ถ้าแดดออกตอนเราไปถึงสกอตแลนด์ ฉันก็ไม่ไปว่ายน้ำหรอก พอไปจริงๆอาจจะลงไปว่ายน้ำก็ได้ค่ะ
 
🔷 Even if you paid me, I wouldn't watch that film.
ต่อให้คุณซื้อตั๋วหนังฟรีให้ฉัน ฉันก็ไม่ไปดูเรื่องนี้หรอก
 
ครูเมย์อยากให้คุณไปฝึกใช้และพยายามทำความเข้าใจเพื่อต่อยอดทักษะภาษาอังกฤษต่อไปค่ะ ลองทำดูนะ

 

เข้าสอบ IELTS Speaking อย่างมั่นใจด้วยคลาสฟรีนี้!

ครูได้จัดคลาสฟรีที่ชื่อว่า IELTS Speaking

...
คลิกเพื่ออ่านต่อ...

แกรมมาร์ที่ใช้การสอบ IELTS : Wish vs. Hope

May 17, 2022
คุณอาจจะคิดว่าสองคำนี้ใช้แทนกันได้ ครูเลยจะมาลงรายละเอียดเพื่อให้คุณเห็นการใช้ที่ถูกต้องกันค่ะ เริ่มเลยนะ
 
Wish : ใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันหรืออนาคตที่ไม่เกิดขึ้นจริง
 
ตัวอย่าง
 
🔶I wish I were beautiful as Lisa Blackpink.
ฉันอยากจะสวยแบบลิซ่า Blackpink จังเลย
ความเป็นจริงเราอาจจะไม่ได้สวยแบบลิซ่า เราอาจจะสวยกว่าก็เป็นได้ค่ะ :)
ครูเมย์เขื่อว่าทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ฉะนั้นมั่นใจเข้าไว้ค่ะ
 
🔶I wish I had eaten steak for dinner last night.
เมื่อคืนฉันน่าจะได้ทานสเต็ก ความจริงอดไม่ได้ทานสเต็กค่ะ
อันนี้คือ อยู่ในรูปของอดีตนะคะ มันผ่านมาแล้ว
 
นอกจากนี้คุณยังสามารถพูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนให้มันดีขึ้นได้ ในรูป wish + would
 
🔶I wish people wouldn't throw litter on the street.
ฉันอยากให้ผู้คนเลิกทิ้งขยะบนถนน คุณเชื่อว่าผู้คนอาจจะเลิกทิ้งขยะแบบนั้นในสักวันหนึ่ง
 
Hope : ใช้พูดถึงสิ่งที่คุณต้องการหรือคาดหวังให้เกิดขึ้นในอนาคต
 
hope ตามด้วยกริยารูปปัจจุบัน แต่มีความหมายในอนาคต คุณสามารถใช้ will และ to เข้ามาใส้ในประโยคได้เช่นกัน
 
🔶I ...
คลิกเพื่ออ่านต่อ...

10 ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้สำหรับกล่าวขอบคุณแทน Thank you

Nov 02, 2021

วิธีการกล่าวขอบคุณแบบเจ้าของภาษา

 การกล่าวขอบคุณสามารถใช้ได้หลากหลายประโยคนอกเหนือจาก Thank you และ 10 ประโยคต่อไปนี้ก็เป็นประโยคที่สามารถใช้แทน Thank you ได้ตามแบบฉบับของเจ้าของภาษา

 

  1. I really appreciate it.

          แปลว่า ฉันตื้นตัน ฉันขอบคุณมากๆ นะ

          (Appreciate ก็เป็นอีกคำนึงที่มักใช้แทน Thank you)

 

  1. That's so kind of you.

          แปลว่า คุณใจดีจังเลย

 

  1. Thank you for your time.

          แปลว่า ขอบคุณที่สละเวลา

          (ถึงจะใช้คำว่า Thank you แต่ก็มีการใส่รายละเอียดไปด้วยว่าขอบคุณสำหรับอะไร ไม่ใช่  Thank you เฉยๆ)

 

  1. I appreciate you taking the time.

          แปลว่า ฉันขอบคุณที่คุณให้เวลากับฉัน

 

  1. I very much appreciate your help.

          แปลว่า ฉันขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของคุณมากๆ

 

  1. It was very thoughtful of you.

          แปลว่า ขอบคุณมากๆ เลยที่คุณนึกถึงและมาช่วย

 

  1. Thank you for your assistance.

          แปลว่า ขอบคุณที่ช่วยนะ (เหมือนข้อ 3)

 

  1. Thank you for everything you do.

          แปลว่า ขอบ...

คลิกเพื่ออ่านต่อ...

IELTS READING : จับคำตอบได้เร็วกว่าเดิม ด้วยเทคนิคนี้!

Nov 02, 2021

หัวใจของ IELTS READING ก็คงไม่พ้นคำศัพท์

ในการทำคะแนน IELTS Reading ให้ได้สูงๆ จะประกอบไปด้วยส่วนของทักษะ 80% โดยเฉพาะทักษะในเรื่องคำศัพท์ ยิ่งรู้คำศัพท์หลากหลายเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเข้าใจบทความได้มากยิ่งขึ้น สำหรับอีก 20% ที่เหลือก็จะเป็นในส่วนของเทคนิค แนวทางในการที่จะทำข้อสอบ IELTS Reading ให้ตรงตามที่ข้อสอบ IELTS ต้องการ ซึ่งในบทความนี้ก็ได้รวบรวมเทคนิคทั้งหมด 7 เทคนิคที่จะช่วยอัพคะแนน IELTS Reading อย่างรวดเร็วมาให้ทุกคน ดังต่อไปนี้

 

เทคนิคที่ 1 : ฝึกหา Main Idea

ถ้าใครเคยไปสอบ IETLS Reading แล้วจะเห็นว่าข้อสอบ Reading ค่อนข้างยาว มีหลายย่อหน้า และให้เวลาน้อยมากในการอ่านและหาคำตอบในแต่ละข้อ ดังนั้นถ้าต้องอ่านทั้งหมด บอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องฝึกหา Main Idea หรือใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นประโยคแรกของแต่ละย่อหน้า และสาเหตุที่ควรหา Main Idea ก่อนก็เพราะว่าเมื่อเรารู้ว่าแต่ละย่อหน้าพูดถึงเรื่องอะไร พอเราอ่านโจทย์และรู้ว่าโจทย์ถามเรื่องอะไรก็จะทำให้เรารู้ทันทีว่าต้องไปหาคำตอบที่ย่อหน้าไหนโดยไม่จำเป็นต้องไล่อ่านตั้งแต่ย่อหน้าแรกให้เสียเวลา

 

เท...

คลิกเพื่ออ่านต่อ...

IELTS Speaking Part 1 : วิธีตอบคำถาม How are you?

Oct 13, 2021

มองข้าม IELTS Speaking Part 1 ไม่ได้เลย!

หลังจากเดินเข้าไปในห้องสอบ IELTS Speaking ก่อนที่จะเริ่มทำการทดสอบใดๆ Examiner มักจะเริ่มต้นด้วยการถามคำถามง่ายๆ อย่าง How are you? ซึ่งเป็นคำถามที่สามารถตอบกลับได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งนอกเหนือไปจากการตอบว่า I'm fine, thank you and you? ที่เราคุ้นเคยกันตั้งแต่เด็ก เราสามารถตอบอย่างง่ายๆ สั้นๆ และน่าประทับใจได้ ดังต่อไปนี้

 

  1. I'm fine thanks. how about you?
  • ค่อนข้างใกล้เคียงกับ I'm fine, thank you and you? แต่จะค่อนข้างใช้บ่อยกว่าในชีวิตจริง

 

  1. Pretty good, How about you?
  • เป็นการตอบว่าค่อนข้างดีและถามกลับว่า แล้วคุณล่ะ?

 

  1. Same as always, How about you?
  • เป็นการตอบว่า เหมือนกับปกติทั่วไปในทุกๆ วัน และถามกลับว่า แล้วคุณล่ะ?

 

  1. I've never been better, How about you?
  • เป็นการตอบว่า รู้สึกดีมากๆ คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้ และถามกลับว่า แล้วคุณล่ะ?

 

  1. I can't complain, How about you?
  • เป็นการตอบว่า ก็โอเคนะ ไม่มีอะไรจะต้องบ่น และถามกลับว่า แล้วคุณล่ะ?

 

  1. I'm doing well, thanks for asking. how a...
คลิกเพื่ออ่านต่อ...

วิธีเตรียมสอบ IELTS Listening สำหรับคนพื้นฐานน้อย

Oct 13, 2021

คนที่มีพื้นฐานน้อย ต้องเตรียมสอบ IELTS Listening อย่างไร?

หากคุณเป็นคนนึงที่กำลังกังวลกับการสอบ IELTS Listening รวมถึงเป็นคนที่มีพื้นฐานน้อย ฟังไม่เข้าใจและไม่ค่อยได้ฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษ บทความนี้จะมาช่วยแนะนำแนวทางในการ   เตรียมทักษะการสอบ IELTS Listening เพื่อให้ผู้ที่มีพื้นฐานน้อยทุกคนได้นำไปใช้กัน ดังต่อไปนี้

 

ประการแรก คืออย่าเริ่มจากการอ่านหนังสือ IELTS หรือฝึกทำตัวอย่างข้อสอบ เพราะหากเราเป็นคนที่มีพื้นฐานน้อยการเริ่มจากการฝึกทำข้อสอบจะทำให้เสียเวลา ทำให้รู้สึกว่าข้อสอบยากเกินจริง และอาจทำให้รู้สึกท้อได้ ดังนั้นให้เราเก็บตัวอย่างข้อสอบไว้ก่อน และค่อยย้อนกลับไปทำหลังจากผ่านช่วงปรับพื้นฐานไปแล้วจะให้ผลที่ดีมากกว่า

 

ประการที่สอง ให้เริ่มต้นพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษจากการฟังสิ่งง่ายๆ ก่อน เช่น ฟังจากการ์ตูนหรือนิทานที่เราพอเข้าใจประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เราไม่ท้อ ไม่เบื่อและสามารถฝึกฟังได้จนเป็นนิสัย เป็นกิจจะลักษณะ โดยให้เราฝึกจากระดับง่ายไล่ไปจนถึงระดับที่ยากขึ้นเรื่อยๆ และพยายามฝึกออกเสียงตามสิ่งที่เราฟังในแต่ละประโยคให้ได้ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด การฝึกแบบนี้จะช...

คลิกเพื่ออ่านต่อ...

วิธีแนะนำตัวเองตอนสอบ IELTS Speaking Part 1 ให้น่าประทับใจ--จนต้องเทคะแนนให้!

Oct 06, 2021

ก้าวเข้าสู่ห้องสอบ IELTS Speaking อย่างมั่นใจ!

การแนะนำตัวเองเป็นสิ่งแรกที่ผู้สอบทุกๆ คนจะต้องทำหลังจากเข้าไปในห้องสอบ IELTS Speaking และนี่คือแนวทางการแนะนำตัวเองที่จะเพิ่มโอกาสทำคะแนนให้ถึงระดับที่ต้องการในส่วนของ IELTS Speaking โดยจะไล่ไปตามคำถามดังต่อไปนี้

 

What's your name ?

สำหรับการตอบในส่วนนี้ เราจะตอบแบบชิลล์ๆ ไม่ต้องกังวล Grammar เหมือน Writing อย่างคำถามว่า What's your name ก็ไม่จำเป็นต้องตอบว่า My name is ... แต่สามารถตอบแบบที่คนต่างชาติตอบกันอย่างง่ายๆ ก็คือ I am ...

 

What should I call you ?

คนต่างชาติจะถามประโยคนี้ก็ต่อเมื่อเป็นชื่อที่ออกเสียงยากอย่างชื่อของคนไทย ก็ให้เราตอบชื่อง่ายๆ ไปได้เลย หรือตอบว่า You can call me ตามด้วยชื่อที่จะให้เขาเรียก

 

Where are you from ?

ก็ตอบไปง่ายๆ เลยว่าคุณมาจากไหน เช่น I'm from Bangkok.

 

Can I see your ID ?

Examiner อาจจะขอดูบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวผู้สอบ ซึ่งเราก็สามารถตอบไปได้ง่ายๆ เลยว่า Sure

 

Where is your hometown ?

ข้อนี้ถามถึงบ้านเกิด ถ้ากรณีบางคนย้ายบ้านบ่อยหรือเกิดที่หนึ่ง โตอีกที่หนึ่ง ก็ให้เลือกเพียงที...

คลิกเพื่ออ่านต่อ...

วิธีเตรียมสอบ IELTS Reading ของคนที่มีพื้นฐานน้อย

Oct 06, 2021

ความกังวลในการสอบ IELTS Reading นั้นมีจริง!

ข้อสอบ IELTS Reading เป็นข้อสอบที่หลายๆ คนค่อนข้างกังวล เพราะจะต้องเจอบทความที่ค่อนข้างยาวมากและมักมีหัวข้อที่ซับซ้อนกว่าข้อสอบ Reading ทั่วไป เป็นบทความที่มีย่อหน้าเยอะ และมีเวลาจำกัดในการอ่านและเลือกคำตอบที่ถูกต้อง ดังนั้นการเตรียมสอบเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งถ้ารู้ตัวว่าตัวเองมีพื้นฐานน้อยและไม่ค่อยได้ฝึกในส่วนของ Reading ก็ควรจะต้องให้เวลาตัวเองอย่างน้อย 3-6 เดือนเพื่อที่จะสามารถทำคะแนนระดับ 6-7-8 ได้

 

"หัวใจ" ของการสอบ IELTS Reading 

หัวใจสำคัญของการสอบ Reading ก็หนีไม่พ้นเรื่องของคำศัพท์และสมาธิ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องฝึกทุกวัน การฝึกทุกวันจะทำให้เรามีสมาธิ สามารถโฟกัสได้รวดเร็ว และสามารถอ่านสิ่งที่เจอในบทความได้อย่างเข้าใจ

 

วิธีเตรียมสอบ IELTS Reading ของคนที่มีพื้นฐานน้อย

ในการเตรียมตัวสอบสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานน้อย จะแนะนำให้เริ่มฝึกจากการอ่านสิ่งง่ายๆ โดยให้เลือกหนังสือที่ลองอ่านแล้วพออ่านเข้าใจหรือเข้าใจประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าในช่วงปรับพื้นฐาน 1-2 เดือนแรก เราควรจะต้องฝึกตัวเองให้ชินกับการอ่านอะไรยาวๆ ส่วน...

คลิกเพื่ออ่านต่อ...

วิธีเตรียมสอบ IELTS Writing สำหรับคนที่มีพื้นฐานน้อย

Sep 23, 2021

หลักการเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ

ถ้าคุณกำลังเตรียมสอบ IELTS Writing แต่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษน้อย หรือไม่ค่อยได้ฝึกการเขียนประโยคภาษาอังกฤษ ในบทความนี้จะมาพูดถึงหลักการวางแผนการเตรียมสอบของคนมีพื้นฐานน้อยและอยากได้คะแนน IELTS Writing ระดับ 6.0 ขึ้นไปว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง

ให้เวลาตัวเองในการปรับพื้นฐานให้เต็มที่

อย่างแรกคือถ้ารู้ตัวว่าตัวเองมีพื้นฐานน้อยหรือไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษในเชิงของการเขียนจริงๆ ก็ควรจะต้องจัดการให้ตัวเองมีเวลาเตรียมตัว 3-6 เดือนก่อนที่จะเข้าสอบ IETLS โดยที่ต้องใช้เวลานานก็เพราะว่าในการสอบ IELTS ผู้สอบจะต้องมีความสามารถในการเอา Tense ต่างๆ มาเขียนเป็นประโยคที่ซับซ้อน ต้องใช้ตัวเชื่อมเป็น และต้องเขียนในโครงสร้าง Essay ที่ทาง IELTS ต้องการได้ด้วย ดังนั้นถ้าพื้นฐานน้อย ก็ควรจะต้องให้เวลาตัวเองในการฝึกฝนอย่างเต็มที่

 

 ปรับพื้นฐานแกรมม่า--โดยการฝึกเขียนรูปประโยค

หัวใจสำคัญของการทำข้อสอบ IELTS Writing ก็คงไม่พ้นในเรื่องของหลัก Grammar และคำศัพท์ ซึ่ง Grammar ก็เป็นโครงสร้างของประโยคที่คุณจำเป็นต้องรู้ว่าเขียนเกี่ยวกับเรื่องใด ใช้ Tense ใด พูดแบบน...

คลิกเพื่ออ่านต่อ...

วิธีทำ IELTS LISTENING 9.0/9.0 แบบครูเม FMCP English

Sep 23, 2021

IELTS Listening ถ้าฝึกถูกทาง...จะง่ายกว่าที่คิด

บทความนี้จะมาพูดถึงแนวทางการฝึกฟังและเทคนิคในการทำข้อสอบ IELTS Listening เพื่อให้สามารถเลือกคำตอบได้ถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งก่อนอื่นเราต้องมาเข้าใจก่อนว่าโครงสร้างของข้อสอบ IETLS Listening เป็นอย่างไร

ในการสอบ IELTS Listening คุณจะได้ฟังทั้งหมด 4 คลิป

- คลิปแรก จะเป็นบทสนทนาระหว่างคน 2 คนเกี่ยวกับหัวข้อทั่วไป

- คลิปที่สอง จะเป็นบทพูด Monolog หรือการพูดคนเดียวเกี่ยวกับหัวข้อทั่วไป

- คลิปที่สาม จะเป็นการพูดเป็นกลุ่ม ซึ่งบางทีอาจจะมีถึง 4 คน โดยจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับหัวข้อ เกี่ยวกับการเรียน การพูดคุยเกี่ยวกับ Project ที่จะต้องเสนอในห้องเรียน

- คลิปที่ 4 ก็คือเป็นบทพูดของคนคนนึงใน Topic เชิงวิชาการ หรืออาจจะเป็นบทเลคเชอร์จากอาจารย์ท่านหนึ่งก็เป็นได้ 

ข้อสอบจะมีทั้งหมด 40 ข้อและให้ทำภายในเวลา 30 นาที โดยหากเป็นการสอบ Paper จะได้เวลาเพิ่มอีก 10 นาทีเพื่อเขียนคำตอบลงในกระดาษคำตอบ และเมื่อรู้ถึงโครงสร้างของข้อสอบ IELTS แล้ว เราก็มาดูกันในเรื่องของวิธีการฝึกฟัง

 

ทักษะการฟัง คือสิ่งที่ข้อสอบ IELTS Listening ต้องการ

ทักษะการฟังเป็นทักษะที่พั...

คลิกเพื่ออ่านต่อ...
1 2 3 4 5 6 7 8
Close

50% Complete

Two Step

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua.