อัพคะแนน IELTS Writing Paper Test ด้วย 3 เทคนิคนี้

IELTS Writing Planning เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

สำหรับการสอบ IELTS Writing หากคุณมีความกังวัลในเรื่องของการบริหารเวลาในการทำ Task 1 กับ Task 2 ต้องบอกเลยว่าสิ่งที่จะสามารถช่วยคุณได้ดีที่สุดก็คือการวางแผนการเขียนก่อนที่จะเริ่มทำ เพราะหากอ่านโจทย์เสร็จแล้วคุณทำการเริ่มเขียนเลย จะทำให้การเขียนของคุณเวิ่นเว้อ มีน้ำเยอะมาก แต่แทบไม่มีเนื้อหาเลย อีกทั้งจะทำให้ไม่สามารถแบ่งย่อหน้าได้ตรงตามที่จุดประสงค์ของ IELTS ต้องการ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มเขียน ให้ทำการวางแผนก่อนว่าในส่วนของ Task 1 หรือ Task 2 ที่กำลังทำอยู่นั้นจะแบ่งเป็นกี่ย่อหน้า Introduction จะพูดเกี่ยวกับเรื่องใด แล้ว Body จะมีกี่ย่อหน้า แล้วแต่ละย่อหน้าจะพูดถึงเรื่องใด และสุดท้ายก็จบด้วย Conclusion โดยการที่วางแผนเป็นกิจจะลักษณะแบบนี้จะทำให้คุณเขียนได้ลื่นไหลขึ้น สมูทขึ้นและสามารถจับใจความได้ดี ซึ่งจะทำให้คนที่ตรวจ Essay ของคุณสามารถเข้าใจและให้คะแนนคุณได้ง่ายขึ้น นอกจากการวางแผนแล้ว ยังมีอีก 3 เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คนที่ตรวจงานเขียนของคุณให้คะแนนคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนี้

 

ฝึกคัดลายมือให้อ่านง่าน--เขียนได้เร็ว

สิ่งสำคัญประการแรกคือผู้ตรวจจะต้องอ่านลายมือของคุณออก บางคนอาจจะใช้การพิมพ์จนเคยชินและไม่ค่อยได้เขียน ทำให้เวลาเขียนจริงลายมือจะค่อนข้างเละ ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าลายมืออ่านยากให้ฝึกเขียนใหม่ หรือทางที่ดีเวลาทำข้อสอบ IELTS Writing ให้เขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด ก็จะทำให้สามารถตรวจได้ง่ายขึ้น แต่ข้อเสียของวิธีการนี้คือหากไม่ชินจะเขียนได้ค่อนข้างช้า ดังนั้นวิธีนี้จะเหมาะกับคนที่ลายมืออ่านยากจริง ๆ หากเป็นผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องลายมือก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีนี้ หากไม่ถนัด แต่ให้ฝึกให้มั่นใจว่าคุณเขียนตัวอักษรแต่ละตัวได้ชัดเจนก็เพียงพอแล้ว

 

เว้นบรรทัดเวลาเขียน--เพื่อการอ่านที่ง่ายขึ้น

ต่อมาในเทคนิคที่ 2 ที่จะสามารถช่วยคุณได้คือการเว้นวรรคและเว้นบรรทัดเพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น เพราะการที่ผู้ตรวจจะให้คะแนนคุณได้มากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ตรวจสามารถอ่านสิ่งที่คุณเขียนได้เข้าใจมากหรือน้อยขนาดไหน

 

แบ่งเวลาการเขียน Task 1 และ 2 ให้เหมาะสม 

และสำหรับเทคนิคสุดท้ายหรือเทคนิคที่ 3 ก็คืออย่าเสียเวลาเยอะกับ Task 1 เพราะ Task 1 เป็นเรื่องเกี่ยวกับกราฟซึ่งควรจะใช้เวลาน้อยกว่า Task 2 และ Task 1 มีคะแนนให้น้อยกว่า Task 2 โดยในการทำ Task 1 ข้อสอบต้องการแค่ 150 คำเท่านั้น ดังนั้นควรใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีในการทำ Task 1 เพราะอย่าลืมว่า Task 2 มีสิ่งที่จะต้องเขียนเยอะมากกว่า เพราะข้อสอบต้องการ 250 คำจาก Task 2 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ไม่ควรทำคือข้าม Task 1 ไปทำ Task 2 ก่อน เนื่องจาก Task 2 มีหัวข้อที่กว้าง สามารถเขียนได้เยอะและข้อสอบต้องการให้คุณเขียนเยอะ ๆ ดังนั้นคุณจะเสียเวลาในการทำ Task 2 ค่อนข้างเยอะ หากคุณข้ามไปทำ Task 2 ก่อนก็อาจทำให้คุณย้อนกลับมาทำ Task 1 ไม่ทันและต้องเสียคะแนนในส่วนนี้ไป จงจำไว้ว่าข้อสอบเรียงมาอย่างไร ให้มาอย่างไร ให้ทำตามนั้น เพราะข้อสอบถูกออกแบบมาแล้ว ข้อสอบวางแผนเรื่องของการบริหารเวลาให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าผู้สอบข้ามไปข้ามมาก็มีสิทธิ์ที่จะทำไม่ทันและต้องเสียคะแนนอย่างแน่นอน

 

อยากได้คะแนนสูงๆ ต้องฝึกเขียนให้บ่อยที่สุด

3 เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มคะแนนในส่วนของ IELTS Writing Paper ได้อย่างง่ายดาย แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญก็คือการฝึกเขียนให้มากที่สุดและในหัวข้อที่เยอะที่สุด เพื่อที่เวลาสอบจริงจะได้มีเนื้อหาและคำศัพท์มาใช้ในการเขียน และนอกจากนี้การฝึกเขียนเยอะ ๆ ยังทำให้สามารถประมาณด้วยสายตาได้ว่าคำที่เขียนไปแล้ว ณ ตอนนั้น ๆ มีทั้งหมดกี่คำ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถบริหารเวลาได้ตามที่ข้อสอบต้องการ

 

เข้าสอบ IELTS Speaking อย่างมั่นใจด้วยคลาสฟรีนี้!

ครูได้จัดคลาสฟรีที่ชื่อว่า IELTS Speaking ไว้ช่วยให้นักเรียนที่กำลังเตรียมสอบ IELTS เข้าใจถึงความต้องการจริงของข้อสอบนี้ และวิธีฝึกภาษาอังกฤษเพื่อที่จะมีพื้นฐานเพียงพอในการทำระดับคะแนนที่ตนเองต้องการ

นอกจากนั้น ครูจะสอนเทคนิค 3 ขั้นตอนในการพิชิต IELTS Speaking Part 2 ซึ่งเป็นพารท์ที่ยากที่สุดของการสอบ Speaking เลยล่ะ

ท้ายคลาสจะมีการแจกบทสรุป IELTS ทั้ง 4 ทักษะด้วยนะ คลิกที่ลิงค์นี้เพื่อเข้าดูรอบเรียนที่ยังไม่เต็ม

Close

50% Complete

Two Step

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua.