IELTS เพื่อเรียนหมอ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

 

สำหรับนักเรียนม.ปลายที่อยากสอบเข้าหมอ

วันนี้จะมาพูดถึงการทำคะแนน IELTS เพื่อเรียนหมอต้องเตรียมตัวยังไง พักนี้มีผู้ปกครองหลายท่านโทรมาขอคำปรึกษาจากเมย์ว่าลูกของเขามีความตั้งใจจะไปเรียนต่อในสายของหมอ ปัญหาคือมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการคะแนน IELTS อย่างน้อย 6.5 overall ถึงจะสามารถยื่นใบสมัครได้ มีโทรมาสอบถามให้นักเรียนตั้งแต่ชั้น ม.4 จนกระทั่งถึง ม.6 เทอมสุดท้ายเลย เมย์จึงอยากจะแนะนำผู้ปกครองท่านอื่นที่ลูกอยากเรียนหมอเหมือนกันแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง หรือสำหรับนักเรียนม.ปลายที่อยากเรียนหมอ แล้วรู้สึกว่ามีข้อสอบเยอะมากที่จะต้องสอบที่ไม่ใช่แค่สอบ IELTS อย่างเดียว นักเรียนควรแบ่งเวลามาเตรียมสอบ IELTS ยังไงและเริ่มจากตรงไหนดี 

ต้องรู้ก่อนว่าจะยื่นใบคะแนน IELTS เมื่อไหร่?

ใบคะแนน IELTS มีอายุถึง 2 ปี นักเรียนจะต้องวางแผนว่า ถ้านักเรียนจะใช้คะแนนตัวนี้เป็นเอกสารประกอบในการยื่นเข้าเรียนหมอใบคะแนนจะต้องไม่หมดอายุ อย่าสอบล่วงหน้าเกินไป เพราะสอบไปก็เสียค่าสอบไปฟรีๆ แนะนำให้สอบช่วงม.ห้าต้นปีจะดีที่สุด เพราะช่วงม.5 นักเรียนยังไม่ต้องเครียดเรื่องของการเตรียมสอบเอนทรานซ์  นักเรียนยังมีเวลาในการเตรียมความพร้อมไปสอบ IELTS เมย์จึงแนะนำว่าในช่วงมัธยมห้าต้นเทอมหรือปลายเทอมมัธยมสี่จึงเป็นช่วงเวลาในการเตรียมตัวที่ดีที่สุด

ตอนนี้เรียนสายภาษาหรือวิทย์-คณิต?

อยากให้ผู้ปกครองดูว่านักเรียนเรียนสายอะไรมา โดยส่วนใหญ่ที่เมย์คุยกับผู้ปกครองมาจะเรียนสายวิทย์-คณิต โดยสายการเรียนนี้จะไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษเท่าไหร่ นอกเหนือจากการเรียนนอกห้องเรียนหรือเรียนพิเศษ ดังนั้นต้องมาดูว่าน้องได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษบ้างไหมในการพูด สองน้องได้ฝึกเขียนบ้างไหม ถ้าน้องไม่เคยฝึกเขียนเป็นกิจลักษณะ เช่นเป็น essay บ้างมั้ย? ได้ฝึกพูดบ้างมั้ย? ถ้าไม่เคยเรียนเพื่อใช้งานก็แนะนำว่าต้องปรับพื้นฐานก่อนจะดีที่สุด การปรับพื้นฐานจะเป็น แพ็คเกจ PREMIUM คือ นอกจากการเข้าเรียน IELTS@HOME แล้วนักเรียนจะได้การปรับพื้นฐานแกรมม่า การพูดและการฟัง ซึ่งสามตัวนี้สำคัญมากในการวางพื้นฐานก่อนเข้าติวข้อสอบ IELTS ส่วนใหญ่แล้วเมย์แนะนำในปรับพื้นฐาน 1-2 เดือนก่อนเริ่มติว IELTS เพราะว่าถ้านักเรียนไม่มีพื้นฐานตรงนี้แล้วนักเรียนไปสอบ IELTS จะทำให้รู้สึกว่าข้อสอบนี้มันยากมาก ที่จริงแล้วข้อสอบไม่ได้ยากขนาดนั้นเลย แต่เป็นเพราะการเตรียมสอบของนักเรียนไม่เพียงพอ

อยากให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าการสอบ IELTS ไม่ใช่การสอบแบบข้อสอบอื่นทั่วไป ไม่ใช่ข้อสอบภาษาอังกฤษทั่วไปแบบที่นักเรียนเคยเจอมา ไม่ใช่แค่มาติวเพื่อท่องจำแกรมม่าและคำศัพท์ก็พอแล้ว IELTS ทดสอบทักษะที่นักเรียนจะต้องใช้ได้จริงในการฟัง พูด อ่าน เขียนและทักษะพวกนี้ต้องใช้เวลาในการสะสมทั้งนั้นในแพ็คเก็จ PREMIUM ของ IELTS@HOME จะมีแผนการเรียนว่าในแต่ละวันนักเรียนต้องฝึกทักษะใดบ้างและต้องฝึกเยอะขนาดไหน เพราะเมย์เชื่อว่าการฝึกน้อยๆแต่ฝึกทุกๆวัน ได้ผลกว่าการหักโหมอ่านวันละ 4-5 ชม.แค่ 2-3 วัน/อาทิตย์อย่างแน่นอน เพราะว่าการฝึกแบบนี้ล่ะ จะทำให้ทักษะของนักเรียนสามารถพัฒนาได้เร็วขึ้น

ถ้าคุณมีทักษะที่แน่นขึ้น ก็จะเก็บคะแนนในข้อสอบ IELTS ได้ง่ายขึ้นเยอะเลย IELTS เขาไม่ได้ทดสอบมากมายหรอก เขาแค่ต้องการดูว่านักเรียนมาสามารถใช้ทักษะทั้ง 4 ได้คล่องขนาดไหน การเตรียมตัวสอบควรใช้เวลาเตรียมตัวให้เต็มที่ไม่ใช่รอให้กระชั้นชิดแล้วค่อยไปสอบ 

แบ่งเวลาในการเตรียมสอบวิชาอื่นๆให้ดี

ส่วนสุดท้ายที่อยากฝากผู้ปกครองไว้ก็คือจำนวนชั่วโมงในการติวของนักเรียน มีผู้ปกครองมาบอกว่าลูกเขาติวตั้งแต่หกโมงเช้าจนกระทั่งสองทุ่ม ทั้งเสาร์-อาทิตย์และตอนเย็นมีเรียนถึงสองทุ่มเลย

สมองของคนเรานั้นสามารถรับได้ไม่มากนะ เมย์ก็มีนักเรียนที่เรียน IELTS วันละ 3-4 ชั่วโมง เพราะว่าเขาต้องรีบใช้คะแนน และเขาไม่ได้ทำงาน จึงมีเวลาเต็มที่มการทุ่มเทให้ IETLS อย่างเดียว มาเปรียบเทียบกับนักเรียนม.ปลาย สมัยนี้เขาไม่ได้มีแค่ IELTS อย่างเดียวที่ต้องเตรียม นักเรียนวิทย์-คณิตต้องเรียนทั้ง ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลข ภาษาไทย ทุกอย่างน้องต้องเป็น Expert หมดและภาษาอังกฤษก็อีกด้วย เมย์อยากให้ผู้ปกครองดูตารางเรียนของน้องนิดนึง ว่าการที่เราอัดทุกอย่างไปในเวลา 6 ชั่วโมง มันไม่ได้ผลดีกับใครเลยมันจะทำให้สมองของน้องรับไม่ไหว เน้นคุณภาพการอ่านหลังสือมากกว่าจำนวนชั่วโมง  ในส่วนของ IELTS ถ้านักเรียนให้เวลาตัวเองในการปรับพื้นฐานเต็มที่--ประมาณ 3-6 เดือน ครูขอแค่วันละประมาณหนึ่งชั่วโมงก็พอแล้วค่ะ 

ครูอยากฝากทั้งสามอย่างนี้ไว้ทั้งกับนักเรียนและผู้ปกครองในการเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างที่ครูบอกว่าสมองของคนเรามันรับไม่ได้เยอะขนาดนั้นและการที่เราอัดเยอะ ๆ จะทำให้สมองไม่สามารถซึมซับอะไรได้เลย

เข้าสอบ IELTS Speaking อย่างมั่นใจด้วยคลาสฟรีนี้!

ครูได้จัดคลาสฟรีที่ชื่อว่า IELTS Speaking ไว้ช่วยให้นักเรียนที่กำลังเตรียมสอบ IELTS เข้าใจถึงความต้องการจริงของข้อสอบนี้ และวิธีฝึกภาษาอังกฤษเพื่อที่จะมีพื้นฐานเพียงพอในการทำระดับคะแนนที่ตนเองต้องการ

นอกจากนั้น ครูจะสอนเทคนิค 3 ขั้นตอนในการพิชิต IELTS Speaking Part 2 ซึ่งเป็นพารท์ที่ยากที่สุดของการสอบ Speaking เลยล่ะ

ท้ายคลาสจะมีการแจกบทสรุป IELTS ทั้ง 4 ทักษะด้วยนะ คลิกที่ลิงค์นี้เพื่อเข้าดูรอบเรียนที่ยังไม่เต็ม

Close

50% Complete

Two Step

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua.