ทำงานประจำก็เตรียม IELTS ได้: เทคนิคจัดตารางชีวิตให้ไม่เหนื่อยล้าและไม่ล้มเลิกกลางทาง

 

ทำงานประจำก็เตรียม IELTS ได้: เทคนิคจัดตารางชีวิตให้ไม่เหนื่อยล้าและไม่ล้มเลิกกลางทาง

หลายคนที่กำลังทำงานเต็มเวลา แต่มีความฝันอยากเรียนต่อหรือย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ อาจรู้สึกว่าการเตรียมสอบ IELTS เป็นภาระที่ “ไกลเกินเอื้อม” เพราะต้องใช้เวลา ฝึกฝน และสมาธิอย่างต่อเนื่อง

แต่ความจริงแล้ว คนทำงานจำนวนมากสามารถสอบ IELTS ได้คะแนนสูง แม้ไม่มีเวลาว่างทั้งวัน
เคล็ดลับอยู่ที่ “การจัดการเวลา” และ “การวางแผนให้เหมาะกับวิถีชีวิตของตัวเอง”

ในบทความนี้ เราจะมาดูว่า...

  • ทำไมคนทำงานไม่ควรรอให้ว่างก่อนค่อยเริ่ม

  • เทคนิค Time Management แบบที่ใช้ได้จริง

  • วิธีวางแผนระยะสั้น – ระยะยาว เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย IELTS ได้แบบไม่เหนื่อยล้า


อย่ารอ “เวลาที่เหมาะสม” เพราะมันไม่มีจริง

หนึ่งในกับดักทางความคิดของคนทำงานคือ “ตอนนี้ยุ่ง เดี๋ยวค่อยเริ่ม”
แต่ชีวิตของคนทำงานมักจะยุ่งเสมอ ไม่ว่าวันนี้หรืออีกหกเดือนข้างหน้า

ยิ่งรอ = ยิ่งเสียเวลา = ยิ่งต้องเริ่มใหม่

ทุกวันที่คุณเลื่อนการเริ่มเตรียมสอบออกไป คือการเลื่อนความฝันของคุณออกไปอีกหนึ่งวัน
หลายคนตั้งเป้าว่าจะไปเรียนต่อปีหน้า แต่สุดท้ายต้องเลื่อนเพราะสอบไม่ผ่าน – ทั้งที่มีเวลาเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้


ความสำเร็จไม่ได้มาจาก “เวลามาก” แต่มาจาก “การใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ”

ในแต่ละวัน เราอาจมีเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงในการฝึกฝน
แต่นั่นก็เพียงพอ ถ้าคุณใช้มันอย่างชาญฉลาด

ลองดู 3 เทคนิคการบริหารเวลา ที่คนทำงานใช้แล้วได้ผลจริง:


1. Time Blocking: จัดตารางฝึกแบบเจาะจง

แทนที่จะบอกว่า “จะอ่าน IELTS วันนี้” ให้คุณกำหนดเวลาให้ชัด เช่น:

  • 07.00 - 07.30: ฝึก Listening ด้วย Podcast + Note-taking

  • 12.30 - 13.00: ทบทวนศัพท์จาก Reading passage เมื่อวาน

  • 20.30 - 21.00: เขียน Writing Task 1 และตรวจ grammar

การใช้เวลาแบบ “ตั้งใจ” แม้จะมีแค่ 30 นาที ก็มีประสิทธิภาพมากกว่าการนั่งหน้าหนังสือแบบเหม่อๆ เป็นชั่วโมง


2. เลือกเนื้อหาที่ “เหมาะกับเวลา”

ไม่ใช่ทุกทักษะจะใช้เวลาฝึกเท่ากัน

  • ถ้ามีเวลา 15 นาที: ใช้ทบทวนศัพท์, ฝึกฟังจากคลิปสั้น, ทำ quiz

  • ถ้ามีเวลา 30-60 นาที: ฝึก Speaking กับ partner หรือเขียน essay

  • เสาร์-อาทิตย์: ทำ Full Practice Test 1 ชุด เพื่อประเมินตนเอง

คุณไม่จำเป็นต้องฝึกทุกอย่างในวันเดียว แต่ต้อง “วางแผนให้ทุกทักษะได้ฝึกในหนึ่งสัปดาห์”


3. ใช้ Micro-goals กระตุ้นตัวเองทุกวัน

Micro-goal คือเป้าหมายเล็กๆ ที่ทำสำเร็จแล้วรู้สึกว่า “เราขยับเข้าใกล้เป้าหมาย” เช่น:

  • วันนี้จะเรียนคำศัพท์ใหม่ 10 คำ

  • วันนี้จะฟังพอดแคสต์ 1 ตอน

  • วันนี้จะลองพูดคำตอบ Speaking Part 2 ให้ได้ 1 นาทีเต็ม

เมื่อคุณทำเป้าหมายเล็กเหล่านี้ได้ทุกวัน ความมั่นใจก็จะสะสมขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งสำคัญมากกับคนทำงานที่มีภาระเยอะ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือ พลังบวก ไม่ใช่ความกดดัน


ตัวอย่างแผนรายสัปดาห์ของคนทำงาน 9-6

วัน เวลา กิจกรรม
จันทร์-ศุกร์ เช้า (07.00 - 07.30) ฟัง Listening podcast + จด keyword
  เที่ยง (12.30 - 13.00) ทบทวน Vocabulary หรือ grammar
  เย็น (20.30 - 21.00) Speaking หรือเขียน Writing
เสาร์ 10.00 - 12.00 ทำ Mock test (Reading/Listening)
  14.00 - 15.00 ทบทวนข้อผิดพลาด + พูด Part 2
อาทิตย์ พัก/ทบทวนสรุปสัปดาห์ หรือใช้ติวกับโค้ช

แผนนี้เน้น “ความสมดุล” ระหว่างชีวิตการทำงานและการเตรียมสอบ
ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องลาออก แต่เดินหน้าได้จริง


สอบ IELTS ไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ — แต่คือผลลัพธ์ของการฝึกอย่างมีระบบ

คนจำนวนมากสอบไม่ผ่าน เพราะใช้เวลาฝึกแบบกระจัดกระจาย ไม่มีโฟกัส
แต่เมื่อคุณทำงานประจำอยู่ ระบบฝึกต้อง “แม่นยำ” และ “วัดผลได้”

หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน หรือฝึกแบบไหนให้ตรงกับ Band ที่ต้องการ
คุณสามารถหาความช่วยเหลือจากโปรแกรมอย่าง IELTS@HOME ได้

IELTS@HOME คือคอร์สออนไลน์ที่ออกแบบมาสำหรับคนทำงานโดยเฉพาะ
มีแผนฝึกตามเวลาจริงของผู้เรียน พร้อม Feedback และ Check-in รายสัปดาห์
ช่วยให้คนไม่มีเวลา ก็สามารถวางแผนและเดินหน้าได้อย่างมีทิศทาง

และที่สำคัญ เป็นคอร์สเดียวที่สามารถรับรองผลคะแนน 7.0 หรือคืนค่าเรียน 100% อีกด้วย


ความฝันไปเรียนต่อ ไม่ได้เป็นของคนว่าง — แต่เป็นของคนที่ลงมืออย่างชาญฉลาด

อย่ารอให้ “ว่างก่อน” ค่อยเริ่ม เพราะวันนั้นอาจไม่มาถึง
หากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน และจัดการเวลาได้อย่างมีระบบ
การสอบ IELTS ให้ผ่าน ไม่ใช่แค่ความฝัน แต่มันคือสิ่งที่ทำได้จริง

เริ่มจากวันละ 30 นาที – แล้วคุณจะตกใจว่าตัวเองไปได้ไกลแค่ไหนใน 90 วันข้างหน้า

 

Close

50% Complete

Two Step

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua.