เรียนต่อต่างประเทศ เริ่มยังไงดี? คู่มือฉบับคนไม่มีพื้นฐานก็เตรียมตัวได้ใน 5 ขั้นตอน

เรียนต่อต่างประเทศ เริ่มยังไงดี?

คู่มือฉบับคนไม่มีพื้นฐานก็เตรียมตัวได้ใน 5 ขั้นตอน

“อยากไปเรียนต่างประเทศ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงเลย...”
ถ้าคุณเคยพูดประโยคนี้กับตัวเอง หรือกำลังคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับคนธรรมดาอย่างเรา
บทความนี้เขียนขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

ความจริงคือ การเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
และไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษมาก่อน หรือมีเงินถุงเงินถัง
ขอแค่คุณมี เป้าหมายที่ชัด และพร้อมจะลงมืออย่างเป็นระบบ

วันนี้เราจะพาคุณไล่เรียง “ขั้นตอนการเริ่มต้นเรียนต่อต่างประเทศ” สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน
เข้าใจง่าย ทำตามได้จริงภายใน 5 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1: รู้ให้ชัดว่า “อยากไปเพราะอะไร”

ก่อนคิดเรื่องประเทศ มหาวิทยาลัย หรือสาขา
คุณควรถามตัวเองก่อนว่า...

• อยากไปเรียนเพื่ออะไร? (พัฒนาตัวเอง, หางานใหม่, ย้ายถิ่นฐาน ฯลฯ)

• อยากเรียนด้านไหน?

• อยากไปประเทศแบบไหน – ภาษาอังกฤษ, วัฒนธรรม, อากาศ

• งบประมาณของคุณอยู่ที่เท่าไหร่?

เป้าหมายที่ชัดเจนจะเป็นเหมือน “เข็มทิศ” ที่ช่วยให้คุณไม่หลงทาง
และเลือกทุกอย่างให้สอดคล้องกับอนาคตที่คุณต้องการ

ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเทศ + มหาวิทยาลัยให้เหมาะกับเป้าหมาย

เมื่อคุณมีเป้าหมายในใจแล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือการ สำรวจประเทศและมหาวิทยาลัย ที่ตอบโจทย์นั้น

ตัวอย่างประเทศยอดนิยมสำหรับคนไทย:

• ออสเตรเลีย: หลักสูตรสั้น อยู่ต่อทำงานได้

• อังกฤษ: เรียน ป.โท แค่ 1 ปี สถาบันชั้นนำเยอะ

• แคนาดา: มีโอกาสได้วีซ่าทำงานและขอ PR

• นิวซีแลนด์: สงบ ธรรมชาติสวย เหมาะกับการโฟกัส

• สหรัฐฯ: มหาวิทยาลัยเยอะ หลากหลายสาขา

ใช้เว็บไซต์เช่น QS Rankings หรือ Studyportals เพื่อค้นหาหลักสูตรที่ใช่
จากนั้นดูรายละเอียดของแต่ละที่ เช่น:

• คุณสมบัติผู้สมัคร

• คะแนนภาษาอังกฤษที่ต้องใช้

• ค่าเรียน + ค่าครองชีพ

• เปิดรับสมัครช่วงไหน

ขั้นตอนที่ 3: เตรียมเอกสารสมัครเรียน

เมื่อคุณเลือกหลักสูตรและมหาวิทยาลัยเป้าหมายได้แล้ว
สิ่งต่อไปที่ต้องเตรียมคือ เอกสารสำหรับยื่นสมัคร

รายการเบื้องต้นที่มักจะต้องใช้:

• Transcript + ปริญญาบัตร (ฉบับภาษาอังกฤษ)

• คะแนนสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS Academic

• จดหมายแนะนำ (Recommendation Letters)

• Statement of Purpose (หรือ Motivation Letter)

• Resume หรือ CV

• เอกสารการเงิน (สำหรับวีซ่า)

หมายเหตุ: บางมหาวิทยาลัยอาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติม เช่น ต้องยื่น Portfolio หรือสอบ GMAT/GRE

ขั้นตอนที่ 4: สอบ IELTS ให้ผ่านเกณฑ์

ภาษาอังกฤษคือหัวใจสำคัญที่สุดในการเรียนต่อต่างประเทศ
และข้อสอบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดคือ IELTS (Academic)

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักต้องการคะแนน IELTS ตั้งแต่ 6.5 ขึ้นไป
และบางสาขาอาจต้องการ Band รายพาร์ตไม่ต่ำกว่า 6.0 หรือ 6.5

ปัญหาที่เจอบ่อย:

• ไม่รู้ว่าควรเริ่มอ่านจากตรงไหน

• ไม่มีเวลาเรียนภาษาแบบจริงจัง

• พยายามเองหลายรอบแต่คะแนนไม่ถึง

ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้ ไม่ต้องห่วง เพราะตอนนี้มีระบบเตรียมสอบที่ออกแบบมาสำหรับคนทั่วไปโดยเฉพาะ

IELTS@HOME คือโปรแกรมเรียน IELTS ออนไลน์ที่ช่วยให้คนไม่มีพื้นฐานก็สอบผ่านได้
ด้วยแผนเรียนที่ชัดเจน, วิดีโอเข้าใจง่าย, และมี Feedback จากผู้เชี่ยวชาญทุกสัปดาห์
คุณสามารถฝึกจากที่บ้านได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

ขั้นตอนที่ 5: สมัคร – ขอวีซ่า – เตรียมเดินทาง

เมื่อเอกสารพร้อม + สอบ IELTS ผ่าน
ก็ถึงเวลา ยื่นใบสมัครออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย หรือระบบกลาง (บางประเทศมีระบบกลางเช่น UCAS สำหรับอังกฤษ)

หลังจากได้รับ “Offer Letter”
คุณจะต้อง:

• ตอบรับเข้าศึกษา (Accept Offer)

• ชำระเงินบางส่วน (บางที่เรียกเป็นค่ามัดจำ)

• ยื่นขอวีซ่านักเรียน

• เตรียมตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และเอกสารเดินทางอื่นๆ

ระยะเวลาทั้งหมดจากเริ่มสมัคร → ได้วีซ่า → เดินทาง
ใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน
ดังนั้นการ “เริ่มต้นไว” จะช่วยลดความเครียดและเพิ่มโอกาสสำเร็จ

การเรียนต่อต่างประเทศไม่ยาก ถ้าคุณเริ่มต้นอย่างถูกวิธี

คนส่วนใหญ่มักคิดว่า “มันยาก” หรือ “เรายังไม่พร้อม”
แต่ความจริงคือ… ทุกคนเริ่มจากศูนย์เหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้คนไปถึงเป้าหมายได้ คือ การลงมือ + วางแผนอย่างเป็นระบบ

และถ้า "ภาษาอังกฤษ" คือสิ่งที่คุณกังวลที่สุด
ขอให้รู้ไว้ว่ามีระบบที่ช่วยคุณฝึกได้แม้เริ่มจากศูนย์

IELTS@HOME พร้อมช่วยให้คุณสอบผ่าน IELTS และก้าวสู่เป้าหมายการเรียนต่อต่างประเทศ
เริ่มจากเรียนวันละนิด แต่เรียนถูกทาง คุณก็ไปถึงได้

👉 ดูรายละเอียดคอร์สได้ที่นี่ : https://www.fmcpenglishonline.com/ieltsonlinecourse