รวมประเทศที่รับคะแนน IELTS พร้อมระดับคะแนนขั้นต่ำที่คุณควรมีในปี 2025

คะแนน ielts ยื่นประเทศไหนได้บ้าง Jun 02, 2025

สำหรับใครที่กำลังวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ หรือย้ายไปทำงาน/ตั้งรกรากในต่างประเทศในปี 2025 นี้
หนึ่งในเอกสารสำคัญที่สุดที่คุณต้องมี คือ ผลคะแนนสอบ IELTS (International English Language Testing System)

แต่ละประเทศจะมีเกณฑ์ ระดับคะแนนขั้นต่ำ แตกต่างกันไปตามประเภทของวีซ่า มหาวิทยาลัย และหลักสูตร

บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลอัปเดตล่าสุดของประเทศยอดนิยมที่ รับคะแนน IELTS
พร้อมแนะนำว่าควรเตรียมสอบให้ได้กี่คะแนนเพื่อเพิ่มโอกาสผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ได้แบบราบรื่น

IELTS คืออะไร (สรุปสั้น ๆ สำหรับมือใหม่)

IELTS คือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก
ใช้เพื่อ:

สมัครเรียนต่อ (ระดับมหาวิทยาลัย)
สมัครวีซ่าทำงาน หรือถาวร
สมัครงานกับองค์กรต่างประเทศ

มี 2 แบบหลัก:

IELTS Academic → สำหรับเรียนต่อ
IELTS General Training → สำหรับทำงานหรือย้ายถิ่นฐาน

คะแนนอยู่ในช่วง Band 0.0 – 9.0 โดยทั่วไปแล้ว หากคุณต้องการเรียนต่อระดับปริญญาโท/เอก หรือย้ายถิ่นฐาน ควรมีอย่างน้อย 6.5 – 7.5 ขึ้นไป

รวมประเทศที่รับคะแนน IELTS + คะแนนขั้นต่ำที่ควรมีในปี 2025

🇦🇺 ออสเตรเลีย (Australia)

ใช้ IELTS ได้กับทุกประเภทวีซ่า: นักเรียน, วีซ่าทำงาน, วีซ่าถาวร (PR)

เรียนต่อมหาวิทยาลัย:
- ป.ตรี: IELTS 6.0 – 6.5
- ป.โท: IELTS 6.5 – 7.0
- หลักสูตรแพทย์/พยาบาล: 7.0 ขึ้นไป ทุกพาร์ต
ขอวีซ่า PR (Skilled Migration):
- อย่างต่ำ IELTS 6.0 แต่หากได้ 7.0 – 8.0 จะได้คะแนนพิเศษ ในระบบ Point-based

✅ สรุป: เตรียมตัวสอบให้ได้ 6.5+ เป็นอย่างน้อย หากมีเป้าหมายเรียนต่อ และ 7.0+ หากต้องการขอ PR

🇬🇧 สหราชอาณาจักร (United Kingdom)

ใช้ IELTS Academic / UKVI IELTS สำหรับ: เรียนต่อ, สมัครงาน, ขอวีซ่า

เรียนต่อ:
- ป.โท ส่วนใหญ่ต้องการ IELTS 6.5 – 7.0
- หลักสูตรภาษา/สื่อสารมวลชน/แพทย์ อาจต้องการ Band สูงเฉพาะ Writing
ขอวีซ่าทำงาน หรือวีซ่าถาวร (Skilled Worker Visa):
- ต้องใช้ IELTS General Training UKVI
- ส่วนใหญ่อยู่ที่ IELTS 4.0 – 6.5 แล้วแต่ประเภทงาน

✅ สรุป: ถ้าเรียนต่อ → 6.5+
ถ้าทำงาน → ตรวจสอบวีซ่าที่ใช้ แล้วเลือกสอบประเภท IELTS ให้ถูก

🇨🇦 แคนาดา (Canada)

ใช้ IELTS General สำหรับ: วีซ่าทำงาน และย้ายถิ่นฐาน
ใช้ IELTS Academic สำหรับ: เรียนต่อ

เรียนต่อมหาวิทยาลัย:
- IELTS 6.5 – 7.5 แล้วแต่สาขา
ขอ PR ผ่าน Express Entry:
- ใช้ IELTS General Training
- ระบบ CLB (Canadian Language Benchmark) เทียบกับ Band IELTS เช่น:
  - CLB 7 = IELTS 6.0 (ทุกพาร์ต)
  - CLB 9 = IELTS 7.0 (Listening 8.0, others 7.0)

✅ สรุป: ถ้าจะขอ PR แบบมีลุ้นสูง → ควรมี IELTS 7.0+
ถ้าเรียนต่อ → อย่างน้อย 6.5

🇳🇿 นิวซีแลนด์ (New Zealand)

เรียนต่อ:
- IELTS 6.0 – 6.5 เป็นเกณฑ์พื้นฐาน
- สาขาสุขภาพ, วิทยาศาสตร์ อาจต้องการ 7.0
ขอวีซ่าทำงาน / PR:
- IELTS General Training
- ส่วนใหญ่ขอ Band 6.5 ขึ้นไป (บางกรณี 7.0)

✅ สรุป: เตรียมไว้ที่ 6.5 – 7.0 ขึ้นไปจะครอบคลุมทุกเป้าหมาย

🇺🇸 สหรัฐอเมริกา (USA)

แม้หลายมหาวิทยาลัยจะนิยมใช้ TOEFL
แต่ปัจจุบันมหาวิทยาลัยกว่า 3,400 แห่งในสหรัฐฯ ก็ ยอมรับ IELTS แล้ว

เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย:
- IELTS 6.5 – 7.5 แล้วแต่มหาวิทยาลัย
- บางแห่งขอคะแนน Writing/Paper เฉพาะเจาะจง

✅ สรุป: ถ้าเป้าหมายคือเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา → IELTS 6.5 ขึ้นไปก็เพียงพอ
แต่อย่าลืมเช็กเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก่อนสมัคร

สอบ IELTS ให้ถึงเกณฑ์ เริ่มจากระบบที่ถูกต้อง

รู้หรือไม่ว่า... คนจำนวนมาก “สอบไม่ผ่าน” หรือ “ติดอยู่ที่ Band 6.0” เพราะฝึกผิดวิธี หรือขาดการวางแผนที่เหมาะสม

หากคุณมีเป้าหมายชัดเจน เช่น ย้ายประเทศ, เรียนต่อ ป.โท, หรือ ขอ PR
สิ่งที่คุณต้องมี คือ:

แผนการเรียนเฉพาะตัว
การฝึก Writing/Speaking พร้อม Feedback
เข้าใจแนวข้อสอบและเทคนิคการทำคะแนน

แนะนำตัวช่วยที่คนสอบผ่านเลือกใช้: IELTS@HOME

คอร์สออนไลน์ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องสอบ IELTS ให้ได้คะแนนตามเป้าหมายแบบเร่งด่วน

คุณสมบัติเด่น:

เรียนได้จากที่บ้าน 24/7
มีแผนการเรียนเฉพาะบุคคล
ตรวจ Writing และ Speaking พร้อม Feedback รายสัปดาห์
มีคลังข้อสอบและเทคนิคการทำคะแนนในแต่ละพาร์ต
การันตีผลลัพธ์ 7.0 หรือคืนค่าเรียนให้เต็มจำนวน

✅ เหมาะกับผู้ที่ต้องการ Band 6.5 – 8.0 ภายใน 1-3 เดือน

เลือกเป้าหมายประเทศ แล้วเตรียมสอบ IELTS ให้ถึงเกณฑ์

การสอบ IELTS ไม่ใช่แค่ “ผ่าน”
แต่คือ “ต้องได้คะแนนที่มากพอ” สำหรับประเทศหรือหลักสูตรที่คุณต้องการ

อย่ารอให้ใกล้วันสมัครแล้วค่อยเริ่มเตรียม
เริ่มวันนี้ วางแผนให้ตรงจุด และเลือกระบบที่ช่วยให้คุณ สอบผ่านรอบหน้าแบบไม่ต้องลุ้น

👉 ดูรายละเอียด IELTS@HOME ได้ที่นี่ : https://www.fmcpenglishonline.com/ieltsonlinecourse